วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

[แปล] อุโรบุจิ เก็นกับคำว่าอบอุ่น???

เวลาพีคอะไรแล้วมีคนพีคด้วยนี่ดีจังเลยน้า ขอสารภาพว่าอ่านคอมเม้นท์เอ็นทรี่ก่อนไปหลายรอบ แถมตอนอ่านนั่งอมยิ้มอีกตะหาก โยโกน่ารักเนอะๆๆๆ อยากอ่านตอนต่อจังเลย เมื่อไหร่จะถึงเดือนหน้าซะทีนะ

ระหว่างรอโยโก วันนี้อ่านนิยาย Fate/Zero เล่ม 1 จบแล้ว เลยเพิ่งรู้ว่าอีตาอุโรบุจิคนเขียน Fate/Zero กับมาโดกะ กับ คำว่าอบอุ่น ที่คนเค้าพูดกันบ่อย ๆ มันเกี่ยวกันยังไง ที่แท้ก็มาจากท้ายเล่มของเล่มนี้เอง อ่านแล้วถูกใจเลยลองแปลดูค่ะ


Fate/Zero:Volume 1 Postface 1
Thai Translation: talalan


อุโรบุจิ เก็นอยากจะเขียนเรื่องที่ทำให้หัวใจของผู้คนอบอุ่น

คน ที่รู้ประวัติการสร้างสรรค์ผลงานของผมคงจะขมวดคิ้วแล้วคิดว่านี่เป็นเรื่อง ตลกฝืด อันที่จริงแล้วผมเองก็เชื่อคำพูดนี้ไม่ได้หมดใจเหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มพิมพ์ถ้อยคำลงบนคีย์บอร์ด เรื่องราวที่สมองผมคิดขึ้นมาก็มักจะเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและสิ้นหวัง

ความ จริงแล้วเมื่อก่อนผมไม่ได้เป็นแบบนี้ บางครั้งบางคราวผมจะเขียนผลงานที่ไม่ได้มีตอนจบที่สมบูรณ์แบบแต่ในตอนสุด ท้ายตัวเอกจะยังคงเชื่อว่า "ถึงแม้ว่าต่อไปจะมีเรื่องยากลำบากมากมาย แต่ฉันยังต้องสู้ต่อไป"

แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่สามารถจะเขียนเรื่องราวแบบนั้นได้อีกแล้ว

ตัว ผมเต็มเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อสิ่งที่มนุษย์เรียกกันว่าความสุข และจำต้องผลักไสตัวละครที่เทใจสร้างขึ้นมาไปสู่ห้วงเหวแห่งโศกนาฎกรรม

สิ่งใดก็ตามในโลกนี้ ถ้าหากว่าเราปล่อยให้มันเป็นไปโดยไม่ไปสนใจใยดีอะไรกับมัน สิ่งนั้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมุ่งไปในทางที่เลวร้าย

ก็ เหมือนกับที่ไม่ว่าเราจะทำยังไงจักรวาลก็จะไม่หยุดเย็นตัว มันก็แค่โลกที่สร้างขึ้นมาจากการรวบรวม "การรุดหน้าของสามัญสำนึก" ไม่มีทางที่จะหลุดรอดจากพันธนาการของกฏธรรมชาติไปได้

ด้วยเหตุนี้ การจะเขียนตอนจบที่สมบูรณ์แบบคุณจำเป็นจะต้องบิดเบือนกฏของเหตุและผล พลิกดำเป็นขาว และถึงขนาดต้องมีพลังที่จะมุ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับกฏของจักรวาล มีเพียงวิญญาณอันล้ำเลิศและบริสุทธิ์สะอาดที่สามารถจะร้องเพลงสวดสรรเสริญ มนุษยชาติเท่านั้นที่จะกอบกู้เรื่องราวเอาไว้ได้ การจะเขียนเรื่องราวที่มีตอนจบที่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่ท้าทายทั้งร่างกาย และวิญญาณของผู้เขียน

อุโรบุจิ เก็นได้สูญเสียพลังนั้นไปแล้ว และมันก็ยังไม่ฟื้นคืนมา ในตัวผมยังคงมี "อาการโศกนาฎกรรม" อยู่เรื่อยมา นี่เป็นโรคที่รักษาไม่หายหรือเปล่า หรือผมควรจะยอมปล่อยมือจาก "นักสู้แห่งความรัก" แบบไม่มีอะไรเจือปนที่โหยหา ขึ้นขี่อาชาสีซีดจางแล้วจุติใหม่เป็นพาหะของไวรัสตัวนี้... หรือว่าผมต้องเกิดใหม่ถึงจะสามารถสร้างผลงานที่มอบความกล้าหาญและความหวัง ให้ผู้คนได้ (ตอนเขียน ผมเขียน 'ความกล้า' เป็น 'วิญญาณ' หรือจะเป็นเพราะใช้ IME อ๊ะ ผมเขียน IME เป็น 'ความเกลียดชัง' นี่ผมจะไม่มีโอกาสฟื้นตัวอีกแล้วรึไง?)*

ใจจริงแล้ว ผมถึงกับอยากจะเลิกเขียนไปเลย ผมจำได้ว่าผมดูสไปเดอร์แมน II พอเห็นว่าปีเตอร์อยากให้ตัวเองไม่มีพลังจะเปลี่ยนร่าง ผมเองก็คิดว่า "บางทีฉันอาจจะไม่อยากเขียนบทอีกต่อไปก็ได้!"

ดังนั้นผมจึงไปที่บ้าน นาสุ คิโนโกะ เพื่อนของผมในตอนบ่ายของวันถัดมา และอยากจะบอกความตั้งใจของผมให้เขาฟัง แต่ก่อนที่ผมจะพูดเรื่องที่คิดอยู่ในใจออกมา ทาคาชิ ทาเคอุจิก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน และหยิบยกเอาข้อเสนอที่คาดไม่ถึงขึ้นมาพูดในทันที

เรื่องหลังจากนี้ ก็เหมือนกับในบันทึกของคิโนโกะ ถึงแผนการณ์ตอนแรกจะเป็นแค่งานเขียนสั้น ๆ ที่บรรยายการดวลกันระหว่างคิริซึงุกับคิเรย์ แต่เมื่อปีกแห่งจินตนาการได้สยายออกมาครั้งหนึ่งแล้ว มันก็หยุดไม่ได้อีกต่อไป และสุดท้ายมาสเตอร์ทั้ง 7 และเหล่าเซอร์แวนต์ก็มารวมตัวกัน ผมพบว่าตัวเองได้กลับมาดื่มด่ำกับการเรียงร้อยเรื่องราวอีกครั้งหนึ่ง จะพูดว่าการลงมือทำ Fate/Zero ช่วยรักษาอาชีพนักเขียนของผมไว้ก็ว่าได้

ตอนนี้ผมกำลังเขียนผลงานที่ได้รับการกอบกู้และมีตอนจบที่สมบูรณ์แบบ หรือถ้าจะพูดให้ชัดก็คือเขียนส่วนหนึ่งของผลงานนั้น

ถูก แล้ว ผลงานอันยอดเยี่ยมที่มีชื่อว่า Fate ตอนจบร่วมกันอันสมบูรณ์แบบที่รายล้อมตัวเอกเอมิยะ ชิโร่เป็นเรื่องที่กำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าตอนจบของ Zero จะออกมาทารุณซักแค่ไหน มันก็จะไม่ส่งผลต่อตอนจบที่สมบูรณ์แบบของชิ้นงานโดยรวม

ในที่สุด ตอนนี้ผมก็ได้เขียนตอนจบที่โศกสลดตามที่หัวใจเรียกร้อง ไม่ว่าผมจะเปิดเผยความมืดในหัวใจออกมาเท่าไหร่ แต่ในภาพรวมแล้วผมก็ยังคงเป็นผู้สมคบคิดของ "นักสู้แห่งความรักนาสุ คิโนโกะ" อยู่ดี

อ้อ

เอิ่ม ถึงแม้ว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาของผมไม่ได้ทั้งหมด แต่ยังไงก็ตาม การที่ทำให้ผมสามารถค้นพบ "ตัวตนที่มีความสุขกับการสร้างสรรค์" อีกครั้งก็เป็นอะไรที่ดีขึ้นมาก

ตอนนี้ผมกำลังมุ่งไปข้างหน้าทีละก้าวละก้าว ไม่ว่าในอนาคตผมจะไปหยุดอยู่ที่ตรงไหน ณ ตอนนี้ผมก็มีความสุขมาก ๆ แล้ว

ตามแผนการณ์ที่วางไว้ Fate/Zero ควรจะจบลงใน 4 เล่ม


*talalan's Note: ในวงเล็บแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วออกจะงง ๆ อยู่ เลยไปหาภาษาญี่ปุ่นมาอ่าน คือว่า คำว่า ความกล้า(勇気) กับ วิญญาณ(幽鬼) ในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า ยูกิ เหมือนกัน เวลาพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดภาษาญี่ปุ่น IME(เหมือนตัวช่วยพิมพ์) ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นอีกคำให้ก็ได้ แล้วตอนที่จะพิมพ์คำว่า IME ก็กลายเป็น 忌め ซึ่งอ่านว่า อิเมะ อักษรตัวหน้าแปลว่าเกลียดค่ะ อุโรบุจิอาจจะใช้คำว่าวิญญาณกับเกลียดบ่อยเลยออกมาเป็นแบบนี้

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

[แปล] No.6 - แอบแปลฉากที่ชอบที่สุดในนิยายเล่ม 5

อ่านแบบเต็มได้ที่ http://hiriajuu.livejournal.com/3225.html

"ถ้าฉันเสียสติไป นายจะทิ้งฉันรึเปล่า"

"ของตาย! ขืนปล่อยให้นายเป็นตัวถ่วง ฉันก็จบกันพอดี!"

"ก็มีเหตุผล"

ฮ่าฮ่า

มุม ปากของเนซึมิขยับขึ้น เขาไม่ได้หัวเราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่ มันไม่ใช่การฝืนหัวเราะ ไม่ใช่การยียวน แต่เป็นการหัวเราะอย่างร่าเริงจริง ๆ

"ฉันไม่ทิ้งนายหรอก ชิอง"

ชิองหุบปาก แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาไม่ใช่ประโยคหวาน ๆ อย่าง "ฉันจะแบกนายไปด้วยกัน"

"ฉันจะตัดคอนายในฉับเดียวเลย"

เนซึมิยกนิ้วขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แต่ตาสีเทาของเขาไม่ได้ยิ้มด้วยเลย มันสงบเหมือนกับทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็ง

ชิ องแตะคอตัวเองโดยสัญชาตญาณ แผลที่เนซึมิกรีดเมื่อหลายวันก่อนยังอยู่ตรงนั้น ผิวหนังที่ถูกกรีดด้วยมีดมีเลือดไหลออกมาแค่เล็กน้อย รอยแผลนั่นน่าจะตกสะเก็ดไปนานแล้ว ถึงอย่างนั้นมันก็เริ่มจะเจ็บขึ้นมา

"ไม่ต้องห่วง ฉันเองก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำ ฉันจะจัดการนายในพริบตา ให้นายได้มีความสุขนิดหน่อย ไม่ทรมาณเลยแม้แต่นิด"

"ขอบใจนะ"

ชิองกล่าวคำขอบคุณในขณะที่มือยังจับคอไว้แน่น

"นายดีกับฉันมาก"

"ฉันก็ดีกับนายตลอดนั่นแหละ พอคิดดูดี ๆ แล้ว ฉันใจดีเกินไป..."

"มันอาจจะเป็นแค่สมองฟั่นเฟือนชั่วคราวก็ได้"

"หา?"

"นายต้องดูให้แน่ใจว่าฉันบ้าไปแล้วจริง ๆ รึว่าแค่เสียสติชั่วคราว จากนั้นค่อยเชือดคอฉันทีหลังก็คงไม่สายเกินไปนี่ ใช่มั้ย?"

"ถ้าฉันมีกะใจน่ะนะ"

"เถอะน่า แป๊บนึงนะ..."

แผลที่อยู่ใต้ฝ่ามือยังเจ็บอยู่!

ถึงจะตายด้วยมือของเนซึมิ ฉันก็ไม่มีอะไรจะบ่น

เนซึมิจะทำตามคำสัญญาแล้วเชือดคอฉันแบบไม่ให้ทรมาณเลยแม้แต่นิด ฉันเพิ่งได้เห็นด้วยตาตัวเองเมื่อกี้นี้เองว่ามันวิเศษแค่ไหนที่ได้ตายอย่าง สงบ ฉันไม่มีอะไรจะบ่นแต่ก็ไม่อยากตายแบบไม่เหลือคำพูดอะไรไว้เลย ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วกลับไปที่บ้านหลังนั้น

"มันอาจจะยากหน่อย แต่ฉันอยากให้นายดูให้แน่ใจก่อน นะ"

"จะให้ทำยังไงล่ะ?"

ก็ อย่างสาดน้ำใส่ฉัน หรือถ้าไม่มีน้ำ... ก็ช่วยไม่ได้ นายจะทำแบบที่ทำเมื่อกี้แล้วตบฉันก็ได้ ถ้ามันเป็นแค่อาการฮิสทีเรียชั่วคราว แรงช็อกขนาดนั้นก็ควรจะทำให้ฉันได้สติกลับมา"

"ฉันจะจูบนาย"

"ว่าไงนะ?"

"ก่อนจะเชือดคอนาย ฉันจะจูบนาย ฉันจะให้นายได้เห็นว่าจูบลาของฉันมันเหนือกว่านายแค่ไหนแล้วค่อยส่งนายไปสวรรค์"

"เนซึมิ..."

ตอน นี้หน้าฉันต้องแดงจากแก้มไปถึงหูแน่ ๆ มันร้อนจนแม้แต่หน้าผากก็ยังมีเหงื่อออก มันอาจจะฟังเหมือนเรื่องล้อเล่นแต่เนซึมิไม่ได้ล้อเล่นแน่ ๆ

ถ้าฉันขยับไม่ได้ ไม่ว่าจะเพราะเสียสติหรือได้รับบาดเจ็บ ทุกอย่างก็จะจบลงตรงนั้น งั้นเหรอ เนซึมิจะจูบฉันก่อนที่จะเชือดคอ

จูบ แห่งความตาย บางอย่างในส่วนลึกของชิองมีปฏิกิริยา หัวใจเต้นแรงขึ้น เขาส่ายหัว ไม่ว่ามันจะชวนให้เคลิบเคลิ้มแค่ไหนแต่ถ้ามันจะมากับความตายแล้ว เขาก็ต้องปฏิเสธ

"ไม่ไหวหรอก นายต้องหาวิธีอื่น"

"ทำไมล่ะ?"

"ขืนทำแบบนั้นฉันก็ยิ่งเพี้ยนกันพอดี"

[แปลเพลง] Kalafina - Sandpiper

พอแปลได้หนึ่งตอนก็สำนึกได้ว่าคิดผิดแล้วตรู
เปิดแปล Eng เทียบเลยค่ะ มึนมากมาย แปลผิดไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
(จริง ๆ ก็ไม่เคยรับผิดชอบอยู่แล้ว 555)

Sandpiper
(สารคดีนกอีก๋อยชายเลนดี ๆ นี่เอง คันมืออยากใส่คำว่านกอีก๋อยลงไปในเนื้อม๊ากมากแต่เกรงใจ)

Vocal: Kalafina

Kanji & Romanji: http://awesmoe.wordpress.com/2011/10/16/lyrics-kalafina-after-eden
Thai Translation: talalan

いつからこの場所で泣いていたのか
itsu kara kono basho de naiteita no ka
ลืมเสียแล้วว่าร้องไห้อยู่ที่ตรงนี้
忘れてしまって
wasurete shimatte
มานานเพียงไหน
涙の理由さえ枯れてしまうまで
namida no riyuu sae karete shimau made
ฉันจะซ่อนกายเจ็บปวดเพียงลำพัง
一人で隠れていたいの
hitori de kakureteitai no
จนถึงวันที่แม้แต่เหตุแห่งน้ำตาก็ยังแห้งเหือด

風が呼ぶけど
kaze ga yobu kedo
แม้สายลมจะร้องเรียก
応えはなくて
kotae ha nakute
ฉันก็ไร้ซึ่งคำตอบ
空は哀しく一人きり
sora ha kanashiku hitorikiri
ท้องฟ้าโศกเศร้าเพียงลำพัง
愛したことも
aishita koto mo
แม้แต่สิ่งที่รัก
砂の脆さに
suna no morosa ni
ก็อันตรธานไป
消えて
kiete
ในผืนทรายที่เปราะบาง

もう貴方が何処にも見えない
mou anata ga doko ni mo mienai
ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่เห็นเธอ
雲は旅を誘うけど
kumo ha tabi wo sasou kedo
แม้เมฆจะเชิญชวนให้ออกเดินทาง
いつか一人で飛び立つ時まで
itsuka hitori de tobitatsu toki made
แต่จนกว่าจะถึงวันที่ฉันจะโผบินเพียงลำพัง
私は空を失くして
watashi ha sora wo nakushite
ฉันจะทอดทิ้งผืนฟ้า
眠るいそしぎ
nemuru isoshigi
เป็น Sandpiper ที่หลับใหล

故郷へ続く蒼い風をただ
furusato he tsuduku aoi kaze wo tada
ยังคงเชื่อในสายลมคราม
信じていたのよ
shinjiteita no yo
ที่เชื่อมถึงบ้านเกิด
幸せの道しるべ緑の島へ
shiawase no michishirube midori no shima he
จับจ้องไปยังปีกของเธอ
貴方の翼を見つめて
anata no tsubasa wo mitsumete
มุ่งสู่ป้ายบอกทางสู่ความสุข ยังเกาะที่เขียวชอุ่ม

自由になれば
jiyuu ni nareba
หากว่าเป็นอิสระ
道を失くした
michi wo nakushita
ก็จะหลงทางไป
世界は哀しいほど広く
sekai ha kanashii hodo hiroku
โลกกว้างใหญ่จนน่าเศร้า
海より高く
umi yori takaku
ฉันจะมุ่งไป
天より低く
ten yori hikuku
ภายใต้ผืนฟ้า
行くわ
yuku wa
เหนือท้องทะเล

もう貴方に傷つくこともない
mou anata ni kizutsuku koto mo nai
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอได้อีกต่อไป
やがて閉ざされる蒼穹
yagate tozasareru soukyuu
ในไม่ช้าฟ้าสีครามจะถูกปิดกั้น
帰る場所さえ見えなくなるけど
kaeru basho sae mienaku naru kedo
แม้ว่าจะมองไม่เห็นแม้แต่สถานที่ให้กลับ
私は空を忘れて
watashi ha sora wo wasurete
ฉันก็จะลืมเลือนท้องฟ้า
歩き始める
arukihajimeru
แล้วเริ่มก้าวเดิน

Update สถานการณ์น้ำท่วมนิดหน่อย บ้านเราอยู่กรุงเทพฯชั้นใน ตอนนี้นอกจากประปาเหลืองแล้วยังไม่มีอะไร
แต่เราเตรียมใจ+เตรียมพร้อมไว้แล้ว ที่เหลือก็พยายามชิลเท่าที่จะทำได้เพราะเราทำได้เท่านี้
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนค่ะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

[แปลเพลง] Nishino Kana - Tatoe Donnani...

คลิกไปฟังจากในทวีตแล้วก็ติดเลย เสียงดีความหมายโอเค เปิดวนไปวนมาแล้วทำงานลื่นดี
たとえ どんなに・・・
Tatoe Donnani...
ถ้าหาก...

Vocal: 西野カナ (Nishino Kana)
Kanji & Romanji: DottDivine
Thai Translation: talalan

今日は少し嫌な事があった
Kyou wa sukoshi iya na koto ga atta
วันนี้เจอเรื่องแย่ ๆ มานิดหน่อย
誰に話してもなんか切なくて
Dare ni hanashite-mo nanka setsunakute
คุยให้ใครฟังเท่าไหร่ก็ไม่หาย
ねぇ もしも君だったら
Nee moshimo kimi dattara
นี่ แล้วถ้าเป็นเธอล่ะ
優しく聞いてくれたかな
Yasashiku kiite kureta kana
จะช่วยรับฟังอย่างอ่อนโยนรึเปล่า

いつもの帰り道なのに
Itsumono kaerimichi na no ni
ถนนที่ใช้กลับบ้านทุกวัน
どうしてこんなに遠く感じるの?
Doushite konnani tooku kanjiru no ?
ทำไมถึงรู้สึกว่าไกลเหลือเกิน
ねぇ もしも君がいたら
Nee moshimo kimi ga itara
นี่ ถ้าหากว่ามีเธออยู่
一瞬で着いてしまったかな
Isshun de tsuite shimatta kana
จะไปถึงในอึดใจเดียวรึเปล่า

どんなケンカでも“ゴメン”て言えたら
Donna kenka demo « GOMEN » te ietara
ถ้าฉันพูดว่า "ขอโทษ" ได้ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน
今でも笑っていてくれたのかな?
Ima demo waratte ite kureta no kana ?
ตอนนี้จะยังหัวเราะให้กันอยู่รึเปล่า
君の優しさに甘えすぎてたの
Kimi no yasashisa ni amaesugiteta no
เอาเปรียบความใจดีของเธอเกินไป
もしあの時素直になれたら…
Moshi ano toki sunao ni naretara…
ถ้าหากตอนนั้นฉันว่าง่ายกว่านี้แล้วล่ะก็...

たとえ どんなにどんなに強く
Tatoe donnani donnani tsuyoku
ไม่ว่าจะหวังไว้มากมายแค่ไหน
願ったってもう戻れないけど
Negatta tte mou modorenai kedo
ก็ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว
遠い君を 見えない君を
Tooi kimi o mienai kimi o
คิดถึงเธอที่อยู่แสนไกล
想い続けて
Omoitsudzukete
คิดถึงเธอที่มองไปไม่เห็น
君からもらった幸せはずっと
Kimi kara moratta shiawase wa zutto
ความสุขที่ได้รับจากเธอ
心の中で輝くの
Kokoro no naka de kagayaku no
จะเปล่งประกายอยู่ในหัวใจตลอดไป
忘れないよ
Wasurenai yo
ไม่มีวันลืม
いつかこの声が
Itsuka kono koe ga
ฉันมั่นใจ ว่าสักวัน
きっと届くと信じて
Kitto todoku to shinjite
เสียงนี้จะไปถึงเธอ

君が教えてくれた歌を
Kimi ga oshiete kureta uta o
บางครั้งอยู่ดี ๆ ก็ยังอยากฟัง
今でも不意に聴きたくなるの
Ima demo fui ni kikitakunaru no
เพลงที่เธอเคยสอนอยู่เลยนะ
君を少しでも近くに
Kimi o sukoshi demo chikaku ni
ถึงจะน้อยแต่ก็รู้สึกเหมือน
感じていられる気がして
Kanjite irareru ki ga shite
ฟังแล้วได้อยู่ใกล้กับเธอ

どんな不安でも我慢していたら
Donna fuan demo gamanshite itara
ถ้าหากฉันกล้ำกลืนทุกความกังวลไว้
今でも側にいてくれたのかな?
Ima demo soba ni ite kureta no kana ?
ตอนนี้เธอจะยังอยู่ข้าง ๆ หรือเปล่า
あんなワガママ言わなきゃ良かった
Anna wagamama iwanakya yokatta
ไม่น่าพูดจาเอาแต่ใจแบบนั้นเลย
もしあの日の言葉を消せたら…
Moshi ano hi no kotoba o kesetara…
ถ้าลบคำพูดในวันนั้นไปได้ก็คงดี...

たとえ どんなにどんなに強く
Tatoe donnani donnani tsuyoku
ไม่ว่าจะหวังไว้มากมายแค่ไหน
願ったってもう戻れないけど
Negatta tte mou modorenai kedo
ก็ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว
遠い君を 見えない君を
Tooi kimi o mienai kimi o
คิดถึงเธอที่อยู่แสนไกล
想い続けて
Omoitsudzukete
คิดถึงเธอที่มองไปไม่เห็น
君からもらった幸せはずっと
Kimi kara moratta shiawase wa zutto
ความสุขที่ได้รับจากเธอ
心の中で輝くの
Kokoro no naka de kagayaku no
จะเปล่งประกายอยู่ในหัวใจตลอดไป
忘れないよ
Wasurenai yo
ไม่มีวันลืม
いつかこの声が
Itsuka kono koe ga
ฉันมั่นใจ ว่าสักวัน
きっと届くと信じて
Kitto todoku to shinjite
เสียงนี้จะไปถึงเธอ

どうして自分に正直な恋じゃダメなの?
Doushite jibun ni shoujiki na koi ja dame na no ?
ทำไมถึงรักอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้นะ
なぜ心は 想えば想うほど離れてくの?
Naze kokoro wa omoeba omou hodo hanareteku no ?
ยิ่งคิดถึงมากเท่าไหร่ ทำไมหัวใจก็ยิ่งจากไปไกล

たとえ どんなにどんなに強く
Tatoe donnani donnani tsuyoku
ไม่ว่าจะหวังไว้มากมายแค่ไหน
願ったってもう戻れないけど
Negatta tte mou modorenai kedo
ก็ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว
遠い君を 見えない君を
Tooi kimi o mienai kimi o
คิดถึงเธอที่อยู่แสนไกล
想い続けて
Omoitsudzukete
คิดถึงเธอที่มองไปไม่เห็น
君からもらった幸せはずっと
Kimi kara moratta shiawase wa zutto
ความสุขที่ได้รับจากเธอ
心の中で輝くの
Kokoro no naka de kagayaku no
จะเปล่งประกายอยู่ในหัวใจตลอดไป
忘れないよ
Wasurenai yo
ไม่มีวันลืม
いつかこの声が
Itsuka kono koe ga
ฉันมั่นใจ ว่าสักวัน
きっと届くと信じて
Kitto todoku to shinjite
เสียงนี้จะไปถึงเธอ

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

[แปล] Bleach - งิน-ไอเซ็น ของแท้หรือแค่ตัวแทน Bengara Koushi

ชื่อเอ็นทรี่งงเนอะ 555

เรื่องมีอยู่ว่าหมู่นี้รู้สึกเหี่ยวเฉา พีคไม่ขึ้น หมดไฟ คล้ายจะหมดมุก เลยงัด Bleach Rock Musical ที่ดองไว้นานแล้วออกมาดู และมันเป็นคำตอบที่ถูกกกกก

ปกติแล้วบุริมิวจะมีเพลงสำหรับ 4 คน 2 คู่ งินxรันงิคุ โทชิโร่xฮินาโมริ แต่มิวนี้รันงิคุดันไม่มา
ในเมื่อไม่มีคนร้องคู่กับงิน ทุกคนเลยใช้วิธีเป่ายิ้งฉุบตัดสินกัน
แค่นี้ก็เดาได้แล้วใช่มั้ยว่าใครได้ร้อง XD

ตอนรันงิคุร้องก็เฉย ๆ นะ มัวแต่ฮาโทชิโร่ แต่พอเป็นไอเซ็นเท่านั้นแหละ เพลงน่าฟังขึ้นมาทันที ร้องเพราะด้วยนะท่านไอเซ็น 55555555

べんがら格子
Bengara Koushi
ประตูไม้ระแนง
** มันคือประตูแบบมีตาเป็นซี่ ๆ เหมือนจะมองเข้าไปข้างในได้ แบบนี้

乱菊 (รันงิคุ):
じゃじゃ降り雨に濡れながら
忍ぶ想いを袂に隠す
あなたを待った石畳
落ちる雫の儚さよ
Jaja furi ame ni nurenagara
Shinobu omoi wo tamoto ni kakusu
Anata wo matta ishidatami
Ochiru shizuku no hakanasa yo
ยามที่เปียกปอนท่ามกลางฝนพรำ
ซ่อนความรู้สึกที่เก็บไว้ไว้ในชายเสื้อ
ลาดหินที่เฝ้ารอเธอ
เป็นเช่นชั่วครู่ของหยาดหยดที่ร่วงหล่น

ギン (งิน):
見えそうで見えない女心
Miesou de mienai onnagokoro
คล้ายจะเห็นแต่แล้วมองไม่เห็น หัวใจผู้หญิง

乱菊 (รันงิคุ):
見えそうで見えない男心
Miesou de mienai otokogokoro
คล้ายจะเห็นแต่แล้วมองไม่เห็น หัวใจผู้ชาย  

ギン (งิน) &乱菊 (รันงิคุ):
二人はまるでべんがら格子
Futari wa maru de bengara koushi
สองเราเปรียบเป็นดั่งประตูไม้ระแนง

ギン (งิน):
可愛いあの子はあかんたれ
Kawaii ano ko wa akantare
เธอที่น่ารักนั่นช่างเอียงอาย

雛森 (ฮินาโมริ):
じゃじゃ振り雨に濡れながら
溢るる想い歌に詠む
月もいざよう頬染めて
今日もまだ来ぬ待ち人よ
Jaja furi ame ni nurenagara
Afururu omoi uta ni yomu
Tsuki mo iza you hoo somete
Kyou mo mada konu machibito yo
ยามที่เปียกปอนด้วยฝนซัดสาด
ฉันร้องเพลงที่เปี่ยมด้วยความรู้สึก
พระจันทร์ฉายแสงให้เห็นแก้มรำไร
คืนนี้คนที่รอก็ยังคงไม่มา

日番谷 (โทชิโร่):
見えそうで見えない女心
Miesou de mienai onnagokoro
คล้ายจะเห็นแต่แล้วมองไม่เห็น หัวใจผู้หญิง

雛森 (ฮินาโมริ):
見えそうで見えない男心
Miesou de mienai otokogokoro
คล้ายจะเห็นแต่แล้วมองไม่เห็น หัวใจผู้ชาย

雛森 (ฮินาโมริ) &日番谷 (โทชิโร่):
二人はまるでべんがら格子
Futari wa maru de bengara koushi
สองเราเปรียบเป็นดั่งประตูไม้ระแนง

日番谷 (โทชิโร่):
扉を開けてはくれないか
Tobira wo akete wa kure nai ka
เธอจะเปิดประตูนั้นให้ฉันได้ไหม

乱菊 (รันงิคุ):
気付いてあたしのこの心
Kizuite atashi no kono kokoro
ขอเธอจงรับรู้ถึงใจนี้ของฉัน (คนแปลชักดิ้นชักงอไปแถว ๆ นี้ ท่าเอามือทาบหัวใจเยี่ยมมากค่ะท่านไอเซ็น XD)

ギン (งิน):
毎度おおきにほなさいなら
Maido ookini hona sainara
ขอบคุณแล้วลาก่อนอย่างทุกครั้งที่เคย

日番谷 (โทชิโร่):
気付けよ俺のこの心
Kizuike yo ore no kono kokoro
รับรู้ซะสิ หัวใจนี้ของฉัน

雛森 (ฮินาโมริ):
そんな目をして見ないでよ
Sonna me wo shite minai de yo
อย่ามองมาด้วยสายตาแบบนั้น

全員 (ทุกคน):
気になる二人はべんがら格子
小舟浮かべてどこへやら
気になる二人はべんがら格子
小舟浮かべて今日も行く
Ki ni naru futari wa bengara koushi
Kofune ukabete doko he yara
Ki ni naru futari wa bengara koushi
Kofune ukabete kyou mo yuku
สองคนที่หัวใจสั่นไหวดั่งประตูไม้ระแนง
เรือน้อยจะล่องลอยไปยังแห่งหนไหน
สองคนที่หัวใจสั่นไหวดั่งประตูไม้ระแนง
เรือน้อยวันนี้ก็ยังคงล่องลอยต่อไป

จริง ๆ แล้วมิวเค้าเล่นกันหลายรอบ คนร้องก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มีทั้งคิระ เร็นจิ โทชิโร่ ตัวประกอบ 1 2 ลูเคีย ทุกคนร้อง แต่คนที่ได้ลง DVD คือท่านไอเซ็น XD ไม่ค่อยจะอวยกันเลย โอ๊ย ถูกใจ 5555

ไหน ๆ แล้วแปะแบบอื่นด้วย

เวอร์ชั่นปกติ รันงิคุ=รันงิคุ
แบบรันงิคุ=โทชิโร่
โดนใจเกินไป อัพบล็อกไม่รู้จักเวล่ำเวลา จะตี 4 แล้ว เผ่นไปนอนก่อนล่ะค่ะ บ๊ายบาย

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

[Nura] เนื้อเพลงโกซึเมซึ Don't Stop Till The End

เป็นเพลงจากอัลบั้ม

Nurarihyon no Mago Character CD Series Gozumaru&Mezumaru/Gyuki

ขี้เกียจแปะรูป คลิกไปดูได้ที่ Amazon นะคะ
 
คือแกะโรมันจิให้คนใน LJ แล้วเลยพิมพ์คันจิไปด้วยเลยแต่ขี้เกียจแปล เอาแค่นี้ละกันนะ 555
 
 
Don't Stop Till The End

さあ今日もやるぞ Are you Ready? 相棒
saa kyoumo yaruzo Are you Ready? aibou
相も変わらず容赦はしないぞ
aimokawarazu yousha wa shinaizo
お騒がせします毎度
osawagaseshimasu maido
おれらここらじゃ名の知れた風来坊
orera kokora jana no shireta fuuraibou

123 ABC 派手に刻もう
123 ABC hadeni kizamou
僕らの歴史 Never Give Up Boy!
bokura no rekishi Never Give Up Boy!
嵐をおこす 爪あと残す
arashi wo okosu tsume ato nokosu
切り裂く大魔神のごとく
kirisaku daimajin no gotoku

Let's Go Let's Go
Let's Go Let's Go
いくぞ 怪しく輝く月の下
ikuzo ayashiku kagayaku tsuki no shita
All Right All Right
All Right All Right
OK OK
OK OK
力あわせ 進め ここがステージさ
chikara awase susume kokoga suteeji(Stage)sa

Don't Stop 世界の果てまで行け
Don't Stop sekai no hate made yuke
大事な仲間守るため
daijina nakama mamoru tame
Keep On Movin' もっと強くなれ
Keep On Movin' motto tsuyoku nare
自分自身みがくため
jibun jishin migaku tame

Let's Go Let's Go
Let's Go Let's Go
いくぞ いくぞ
ikuzo ikuzo
たとえ道は狭くても
tatoe michi wa semakutemo
All Right All Right
All Right All Right
OK OK
OK OK
決して忘れちゃいけない
kesshite wasurecha ikenai
勇気を 友情を
yuuki wo yuujou wo
Don't Stop Till The End Of Time
Don't Stop Till The End Of Time

知ってますか? おれら武闘派
shittemasuka? orera butouha
弱肉強食 常に無常だ You Know What?
jakunikukyoushoku tsuneni mujouda You Know What?
時にスローダウン 惑わすまもなく
tokini suroodaun (Slow Down) madowasu mamonaku
しとめちゃいます それがノーマル
shitomechaimasu sorega noomaru (Normal)

ボク馬の骨かぶったキラー
boku uma no hone kabutta kiraa (Killer)
今夜も最前にやってきたきた
konyamo saizensenni yatte kita kita
ついていきます 命かけます
tsuiteikimasu inochi kakemasu
明るく楽しく勝利をめざす
akaruku tanoshiku shouri wo mezasu

Let's Go Let's Go
Let's Go Let's Go
いくぞ 闇にくりだせ Everybody
ikuzo yaminikuridase Everybody
All Right All Right
All Right All Right
OK OK
OK OK
また始まる 今宵 見せてやれ It's Show Time!
mata hajimaru koyoi miseteyare It's Show Time!
Don't Stop 世界の果てまで行け
Don't Stop sekai no hate made yuke
大事な仲間守るため
daijina nakama mamoru tame
Keep On Movin' もっと強くなれ
Keep On Movin' motto tsuyoku nare
自分自身みがくため
jibun jishin migaku tame

Let's Go Let's Go
Let's Go Let's Go
いくぞ いくぞ
ikuzo ikuzo
たとえ道は狭くても
tatoe michi wa semakutemo
All Right All Right
All Right All Right
OK OK
OK OK
あきらめないと誓うよ
akiramenai to chikauyo
Don't Stop たとえ道は狭くても
Don't Stop tatoe michi wa semakutemo
Don't Stop 忘れないで
Don't Stop wasurenaide
Don't Stop Till The End Of Time
Don't Stop Till The End Of Time
 
เรื่องนี้เราชอบเซ็นกับกิวคิที่สุด แต่ไม่ยอมร้องเพลงทั้งคู่เลย สงสัยค่าตัวคงจะแพง ร้องนิดร้องหน่อยก็ไม่ได้ เช้อ =3=
 
ปอลิง คุโรตอนใหม่เคะ เคะ เคะ เคะ

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

[แปล] KHR - ACUTE MAD [D1869]

ก่อนอื่นดูนี่ก่อนนะ (คนที่ไม่สนใจอะไรวาย ๆ กรุณากด X มุมบนขวาเบา ๆ )
แบบว่าดูแล้วฟุ้งซ่าน ไม่เคยนึกถึงสมการนี้มาก่อน แต่เดิมก็ชอบ D18 กับ 6918 1869 เป็นพิเศษอยู่แล้ว เจอคลิปนี้เข้าไป มันแซ่บมากค่า XD
เพลงเข้าใจว่าเป็นเพลงรักสามเส้าของโวคาลอยด์ Search ดูเจอ 4 copy แปลไม่เหมือนกันซักคน ไม่เสี่ยงดีกว่า
เอาแค่คำพูดสามหนุ่มตั้งแต่ 03:10 แล้วกัน ไม่รับประกันความถูกต้องด้วยประการทั้งปวง
-----------------------------------------------------------------------
มุคุ:
ーーーーもしもし、恭弥?
----ฮัลโหล เคียวยะ?
คุณฮิ:
骸? 何。。。
มุคุโร่เหรอ มีอะไร..

มุคุ:
また、跳ね馬のところですか。
อยู่กับม้าพยศอีกแล้วเหรอ

คุณฮิ:
。。。。。。そうだけど
用件は?
......ก็ใช่
มีธุระอะไรล่ะ

มุคุ:
何故あんな男に構うのですか。。。
教え子としての義理、
などとはまさか言いませんよね?
ทำไมต้องไปสนใจผู้ชายพรรค์นั้นด้วย...
คุณคงไม่บอกว่าเป็นหน้าที่ของลูกศิษย์หรอกนะ

มุคุ:
馴れ合いは君が最も嫌うところのはず。
。。。。。ズルズルと関係を繋いで、
君に何も得るものは無いでしょう。
คุณน่าจะเป็นคนที่เกลียดความสัมพันธ์ผิดเพี้ยนอย่างนั้นมากที่สุดนี่
......ปล่อยให้ค้างคาต่อไป
ก็ใช่ว่าจะได้อะไรขึ้นมา

คุณฮิ:
ーーー君には関係ないよ。
---ไม่เกี่ยวกับคุณ

มุคุ:
僕の気持ちを知っていて
そんな事を言っているんですか。
ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าผมรู้สึกยังไงก็ยังจะพูดแบบนี้อีกเหรอ

คุณฮิ:
だからだよ。
君やあの人が僕に対して
どんな感情があるとか、
そんな事、僕には関係ない。
เพราะอย่างนั้นน่ะแหละ
อย่างคุณกับคนคนนั้นน่ะ
จะรู้สึกอะไรยังไงก็ไม่เกี่ยวกับผม

มุคุ:
。。。。。。。。。
......

คุณฮิ:
そんな話なら、
僕はこれ以上時間を費やしたくない。
。。。。。じゃあね。
ถ้ามีเรื่องจะพูดแค่นั้น
ผมก็ไม่อยากจะเสียเวลามากไปกว่านี้แล้วล่ะ
......แค่นี้นะ

มุคุ:
恭。。。
เคียว...

โน่:
。。。あいつか?
...หมอนั่นเหรอ

คุณฮิ:
。。。。。。。
......

โน่:
もう止めろよ。
あいつとーーー
พอเถอะ
กับหมอนั่น---

คุณฮิ:
あなたも、同じことを言うの。
แม้แต่คุณก็ยังจะพูดแบบเดียวกันอีกเหรอ

คุณฮิ:
。。。。。。僕は、
......ผมน่ะ

求めてくるから、
応えてるだけだよ。
ก็แค่สนองตอบคนที่ต้องการเท่านั้นแหละ
(แปลว่าใครจะเข้าหาก็ไม่ปฏิเสธ)
-----------------------------------------------------------------------
สมน้ำหน้าเสะใจร้าย โดนแกล้งกลับบ้างก็ดีแล้ว 5555
ชอบ D1869 จังเลย ใครรู้ที่เสพสมการนี้เพิ่มช่วยบอกเอาบุญหน่อยนะคะ

นาน ๆ ได้อัพบล็อกทีค่อยโล่งหน่อย ราตรีสวัสดิ์ค่า \(^o^)

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Amanchu! แง้มเล่ม 1 ภาษาไทยดูซิ จะแจ่มแค่ไหน

ในที่สุด Amanchu! เล่ม 1 ก็ออกมาเป็นภาษาไทยแล้ว \(^o^)/
เล่มนี้ใคร ๆ ก็ว่าบงกชทำออกมาดีจนถึงกับอยากให้เอา Aria กลับมาทำใหม่เป็นแบบเดียวกันเลยทีเดียวเชียว
 
มาดูกันว่าจะดีสมคำร่ำลือรึเปล่า
 
ทางซ้ายคือเล่มภาษาญี่ปุ่น ทางขวาคือภาษาไทยนะคะ
 
ปกหน้า ไม่มีอะไรจะวิจารณ์ แต่รู้สึกคุ้น ๆ กันรึเปล่า จริง ๆ แล้วธีมบล็อกตอนนี้ก็มาจากปก Amanchu! เล่ม 1 นี่แหละค่ะ รีบเอามารีวิวก่อนเปลี่ยนธีม 555
 
 
ปกหลัง No Comment

 
แง้มดู มีภาพสีมาให้ด้วย YES! ปกส่วนที่พับเข้ามาของไทยเล็กกว่าแต่คงเป็นขนาดมาตรฐานบงกช รับได้ไม่มีปัญหา

 
ด้านหลังของหน้าสี
เห็นอะไรมั้ยเอ่ย ครือว่า บงกชใส่หน้าสีมาให้สองแผ่นค่ะ แบบนี้เป็นตำหนิหรือกำไรเนี่ย 5555

 
ถอดปกมาเทียบกันก็ใส่มาให้เพียบพร้อมทั้งด้านหน้าด้านหลัง

 
สุดท้ายคือไฮไลท์ ปกในค่ะ ปกในที่บงกชไม่เคยทำ ทำมาแล้วในเล่มนี้ ซาบซึ้งมาก แต่ เอ๊ะ มีแถบขาว ๆ ทางขวาทั้งด้านหน้าด้านหลังเลย
 
 
มันคือสันเบี้ยวนั่นเอง ไม่ได้ถ่ายรูปมาแต่ติดปกเบี้ยวเลยทำให้เห็นเป็นแถบขาวเกินมา
 
 
คุณภาพการแปลก็อยู่ในขั้นไม่มีอะไรจะติ มีบางหน้าที่เราว่าพิมพ์มาดำไปหน่อยอ่านไม่ถนัด
แต่สรุปโดยรวมแล้วงานนี้ถูกใจให้ดาวบงกชไปค่ะ d(^o^)b (เล่มหน้าอย่าให้เบี้ยวนะ)
 
 
 
 
พอพูดถึง Amanchu! แล้วก็อยากได้เล่มนี้ อยากเห็นว่าภาพตอนอ.กำลังจะเป็นแม่คนจะเปลี่ยนไปแบบไหนบ้าง
 
 
ส่วนเล่มนี้ ตอนเห็นงงไปเลย นึกว่าเป็นหนังสือชื่อส่อเฉย ๆ ที่ไหนได้ หนังสือม่วงของจริง ใครอ่านแล้วช่วยบอกหน่อยนะคะว่าสนุกรึเปล่า เผื่อซื้อมาอ่านมั่ง XD
 
 
จบดีกว่า พรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้ว นอนแต่หัวค่ำตื่นแต่เช้าไปทำงาน/เรียนอย่างสดใสนะคะ \(^_^)
 
ปอลิง โชคดีมีชัย สอบได้คะแนนดี ๆ นะ เด็กม. 6 ทั้งหลาย

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

KHR ลูกชายคู่ใหม่

ผลพวงจากการไปเดทกับที่รักกับอีกสองหน่อค่ะ
อวดลูกชายแล้วก็ปรับอารมณ์กลับมาเขียนบล็อก ยิงปืนนัดเดียวได้วาเรียมาสองตัว
 
 
น่ารักเนอะ ๆ แปะฉากหลังเข้าไปแล้วมันเข้ามาก
เป้าหมายต่อไป วาเรียยกทีม \(^o^)