วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

[แปล] K Guide Book Novel vol. 3 Kingdom

K Guide Book, vol. 3 Kingdom by Raikaku Rei
Kingdom by Raikaku Rei
อาณาจักร โดย ไรคาคุ เร

English Translation: http://chilly-territory.tumblr.com/post/51789092599/k-guide-book-vol-3-kingdom-by-raikaku-rei

หลัง จากซุโอกลายเป็นราชาก็มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่คุซานางิไม่สามารถจะสลัดความ รู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางพายุออกไปได้ ตั้งแต่วินาทีที่ดาบยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือหัวของซุโอ วินาทีที่เขาจับมือเพื่อนที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ โลกทั้งโลกของเขาก็เปลี่ยนไป

คุ ซานางิรู้ดีว่าตัวเองได้แหย่ขาข้างนึงเข้าไปในโลกมืดเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยนึกฝันเลยว่าที่สุดแล้วตัวเองจะย่างเท้าเข้าไปสู่โลกเหนือ ธรรมชาติที่ผู้คนมีพลังเหนือล้ำกว่าความสามารถของมนุษย์ไปไกลโข พวกเขาทั้งสามคนถูกดึงเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่แสนจะแปลกประหลาดครั้งแล้ว ครั้งเล่าในขณะที่ถูกโลกที่ไม่รู้จักนี้หยอกล้อ ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินพวกเขาเข้าไป ยิ่งกว่านั้นยังตกเป็นเครื่องเล่นของถ่านคุไฟสีแดงที่ถือกำเนิดจากภายในตัว พวกเขาทั้งสามคน
ไฟที่คุซานางิได้รับมาจากซุโอนั้นเกินกำลังที่เขาจะ ควบคุมได้ เขาจึงต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งไปในการเรียนรู้วิธีการใช้ความสามารถของตัวเอง แต่ถึงกระนั้น ไฟของคุซานางิก็เทียบไม่ได้เลยกับพลังอันยิ่งใหญ่ของซุโอ มันคือไฟประลัยกัลป์ที่จะเผาทุกอย่างที่ขวางหน้าจนราบเป็นหน้ากลอง ซุโอเก็บตัวอยู่ในบาร์ HOMRA และพยายามอย่างหนักที่จะกดมันเอาไว้ ในร่างของเขามีลาวาที่ร้อนแรงเดือดพล่านอยู่ และแม้แต่คุซานางิเองก็ยังมีเวลาที่ถูกกดดันเมื่ออยู่ต่อหน้าออร่าที่รุนแรง ที่ซุโอปล่อยออกมาราวกับเป็นเทพมาร

กริ๊ง เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น คนในร้านสองคนหันมาทางคุซานางิที่เพิ่งกลับมา

“กลับมาแล้วเหรอ คุซานางิซัง!” โทสึกะยิ้มให้คุซานางิ ส่วนซุโอทักทายง่าย ๆ ด้วย “ไง” พร้อมกับสูบบุหรี่ไปด้วย

คุซานางิผ่อนคลายแล้วยิ้มตอบ “พวกนายทำอะไรกันอยู่”

ซุ โอนั่งขี้เกียจอยู่บนสตูลในขณะที่โทสึกะยืนอยู่ข้างหลังพร้อมกรรไกรในมือ ถึงคุซานางิจะถามว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่คำตอบที่เป็นไปได้ก็ค่อนข้างจะชัดเจนอยู่แล้วว่าในที่สุดซุโอก็คิดจะ จัดการตัวเองให้เรียบร้อยขึ้นอีกนิด ตั้งแต่ซุโอกลายเป็นราชาเขาก็ไม่มีเวลาพอจะมาดูแลภาพลักษณ์ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ผมจึงยาวขึ้นและก็เห็นอยู่แล้วว่าโทสึกะกำลังตัดมันอยู่ เรื่องนี้หมายความว่าซุโอเองก็กำลังจะควบคุมพลังของตัวเองได้แล้ว หนวดเคราที่ยาวเพราะไม่ได้โกนหายไปจากใบหน้าของซุโออย่างหมดจดดูสดชื่น เกลี้ยงเกลา

 “กำลังตัดผมให้คิงอยู่น่ะ ฝีมือชั้นใช้ได้เลยใช่มั้ย”
“นายนี่มีพรสวรรค์ในเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้วนะ หือ... ตรงที่ยาว ๆ ลงมาปรกหน้า 2 เส้นนี่อะไร”
“ขอบคุณที่ถาม!” โทสึกะยืดอกอย่างภาคภูมิใจ “มันคือหนวด!”
“หา?”
“ก็ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่พวกเรามีศัตรูเยอะใช่มั้ยล่ะ แถมตอนนี้เรายังอยู่ในสถานการณ์ที่จับต้นชนปลายไม่ถูกอีก เพราะฉะนั้นหนวดนี่จะช่วยตรวจจับตัวตนของศัตรู เป็นการช่วยให้คิงป้องกันตัวได้ดีขึ้น! ไม่ใช่แค่นั้นนะ! หนวดนี่ยังมาพร้อมกับโทรจิต! …โอ๊ย!” โทสึกะพูดไม่หยุดเหมือนโฆษณาบางประเภทในทีวีจนโดนซุโอเขกหัวจากข้างหลัง เพื่อจะหยุดการพูดพล่ามของเขา ภาพที่คุซานางิเห็นนี้ยืนยันการคาดเดาที่ว่าซุโอกลับมาเป็นตัวเขาคนเดิมจริง ๆ

คุซานางิยิ้มออกมาและเดินเข้าไปหาพวกเขาทั้งสองคน

ถึง แม้โทสึกะจะเป็นแคลนแมน [ต้นฉบับญี่ปุ่นใช้คำว่า Clansman ทับศัพท์เลยใช้ตามค่ะ] ของซุโอและผ่านพิธีการมาในเวลาเดียวกับคุซานางิ แต่เขากลับไม่ได้รับพลังอะไรมากมาย และเหมือนกับจะเป็นการแลกเปลี่ยนกับเรื่องนั้น โทสึกะจึงไม่เคยพบปัญหาในการควบคุมพลังเลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่ใช่แค่นั้น ไฟของเขาที่มีต้นกำเนิดมาจากซุโอสามารถประสานเข้ากับไฟของซุโอได้อย่าง สมบูรณ์แบบ มันสามารถจะทำให้ไฟที่บ้าคลั่งของซุโอสงบลงได้ กับไฟของคุซานางิที่เรียกได้ว่าเป็นไฟพี่น้องกันก็มีผลเช่นเดียวกัน

ตลอด เวลาที่ผ่านมา โทสึกะคอยอยู่ข้าง ๆ พวกเขาและทำให้พลังของซุโอสงบลงในเวลาที่ชายผมแดงกำลังจะพ่ายแพ้ให้กับเปลว ไฟของตัวเองพร้อมกับลากคุซานางิให้ล่มจมไปด้วยกัน

“โทสึกะ ผมนายก็ยาวมากแล้วนะ”

ผมของโทสึกะที่ยาวถึงไหล่ถูกผูกเป็นหางม้าลวก ๆ เขาเองก็เหมือนกับซุโอตรงที่ไม่มีเวลาพอจะมาดูแลตัวเอง

โท สึกะหัวเราะเรื่อยเปื่อยและเอายางที่มัดผมไว้ออก “ฮื่อ ก็คิดว่าพอตัดให้คิงเสร็จแล้วจะตัดของตัวเองอยู่เหมือนกัน” ไม่พูดเปล่า เขาเสือกกรรไกรเข้าไปในผมตัวเอง

“ตัดผมให้ตัวเองมันยากอยู่นะ ให้ชั้นทำให้เอามั้ยล่ะ” คุซานางิหยุดโทสึกะไว้ เป็นผลให้ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่ามองขึ้นมาอย่างหวาด ๆ

“…คุซานางิซังคงไม่ตัดหนวดให้ชั้นหรอกใช่มั้ย”
“นี่นาย...ไม่เคยมีใครสอนรึไงว่าถ้าไม่ชอบอะไรก็อย่าไปทำอย่างงั้นกับคนอื่น”
“แหม ที่จริงแล้วก็อยากให้ตัวเองมีพลังพอคู่ควรกับหนวดอยู่เหมือนกัน”
พอ ได้ยินคำพูดไร้สาระที่โทสึกะพูดออกมาหน้าตาเฉย คุซานางิก็อดไม่ได้ที่จะเขกหัวกลวง ๆ นั่น จากนั้นจึงหยิบกรรไกรขึ้นมาแล้วจับให้ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่านั่งลงบน เก้าอี้ จากนั้นจึงเริ่มตัดผมสีอ่อน

“เออ จะว่าไปแล้ว มิโคโตะ ยังจำพวกพิลึกที่ใส่หน้ากากกระต่ายที่เคยมานี่ได้รึเปล่า พวกที่พูดอะไรเกี่ยวกับระเบียบกับข้อตกลงที่มาพร้อมกับการเป็นคิงน่ะ”
“เออ”
“คือ พวกนั้นอยากให้นายเลือกราชอาณาเขต [น่าจะคุ้นกับคำว่า Kingly domain กันมากกว่ามั้ง] แล้วชั้นก็เบื่อจะวุ่นวายด้วยแล้ว เลยส่งเอกสารไปแล้วว่านายเลือกบาร์นี่เป็นราชอาณาเขต”
“อะไรคือราชอาณาเขตเหรอ” โทสึกะบิดคอมามองคุซานางิที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการตัดผม

คุ ซานางิจับหัวโทสึกะหมุนกลับไปยังตำแหน่งเดิมและตอบคำถาม “ตามที่ได้ยินมา มันคืออะไรที่เหมือนกับเขตแดนที่ราชาเป็นเจ้าของ แม้แต่ราชาด้วยกันเองก็ผ่านเข้ามาไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง”
“หืออ... แต่คิงไม่มีอะไรที่คนทั่วไปเค้าพูดว่า ‘นี่เป็นสมบัติของชั้น’ ได้นี่นา”
“ก็ ใช่น่ะสิ แถมจะไปใช้ห้องเช่าเป็นราชอาณาเขตก็ไม่ได้อีก คนให้เช่าได้ตกใจตายกันพอดี โชคยังดีที่มีร้านนี่อยู่” คุซานางิเหลือบมองซุโอ
“เพราะฉะนั้นนายไปจัดของบนชั้นสองแล้วมาอยู่ที่บาร์นี้ซะ”
“...แน่ใจเหรอ”
“แน่ ใจสิ ตั้งแต่ลุงชั้นเสียชั้นสองก็ไม่ได้ใช้อะไรอยู่แล้ว” คุซานางิพูดและยิ้มให้ซุโอ จากนั้นจึงเคลื่อนสายตากลับมาที่หัวของโทสึกะและขยับกรรไกร แต่ละครั้งที่หุบกรรไกร ผมเส้นใหม่ก็ร่วงลงที่พื้น
แม้จะรู้ว่าคุซานา งิกำลังตัดผมของเขาอยู่ โทสึกะก็ยังบิดคอไปมาเพื่อสำรวจสภาพภายในบาร์ “งั้นเหรอ ...ที่นี่จะกลายเป็นอาณาจักรของคิง” โทสึกะพูดในขณะที่อารมณ์ที่ลึกซึ้งปรากฏบนใบหน้า รอยยิ้มของเขาสะท้อนให้เห็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ความดีใจ ภาคภูมิใจ และมีความเจ็บปวดปนอยู่เล็กน้อย
เมื่อคุซานางิมองไปรอบบาร์ เขาเองก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน สภาพในบาร์ตอนนี้ดูสกปรกและขาดการดูแล ร้านนี้ใช้งานไม่ได้มาระยะหนึ่งแล้วและคุซานางิก็ปล่อยมันไว้แบบนั้นโดยที่ ไม่แม้แต่จะทำความสะอาด นอกจากนี้บางส่วนของบาร์ยังเสียหายจากปัญหาหลาย ๆ อย่าง รอยไหม้จากช่วงที่ซุโอและคุซานางิควบคุมพลังไม่ได้เองก็กระจายอยู่ทั่วไป
หลัง จากมองไปรอบ ๆ เพิ่มจากเดิม ทันใดนั้นสิ่งรบกวนที่แฝงอยู่ในรอยยิ้มของโทสึกะก็หายไปกลายเป็นรอยยิ้มที่ สดใสไร้กังวล เขาหันไปทางซุโอและคุซานางิและส่งยิ้มให้ทั้งสองคน “มาทำให้ที่นี่เป็นประเทศที่ดีกันเถอะ!”

คุซานางิเองก็ยิ้ม ออกมาราวกับถูกดึงดูดด้วยความร่าเริงของโทสึกะ “...ตกลง ก่อนอื่นก็ต้องทำความสะอาดแล้วก็ตกแต่งภายในซะใหม่ แล้วเราก็จะเปิดบาร์ HOMRA ฉบับปรับปรุงใหม่กัน”

คุซานางิตั้งใจว่าจะให้อีกสองคน ช่วยเขาปัดกวาดเช็ดถูบาร์ให้สะอาดเอี่ยม ซื้อเฟอร์นิเจอร์มาเปลี่ยนแทนชิ้นที่เสียหาย และกลับไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคนส่งสินค้าที่เขาหยุดติดต่อด้วยมาพักใหญ่ เขาอยากจะเปลี่ยนภาพพจน์บาร์เสียใหม่ให้เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยนเคาท์เตอร์บาร์ด้วยของใหม่ที่ตรงตามรสนิยมของเขา
ใน ที่สุด โลกของพลังเหนือธรรมชาติที่ขาดสัมผัสแห่งความเป็นจริงและหยอกล้อกับพวกเขา ทั้งสามคนเหมือนของเล่น กับโลกอันคุ้นเคยของชีวิตตามปกติที่คุซานางิจะต้องยืนอย่างมั่นคงและใช้ ชีวิตอยู่ ก็เริ่มจะซ้อนเข้าด้วยกัน

มาทำให้ที่นี่เป็นประเทศที่ดี ทำให้เป็นบาร์ที่ยอดเยี่ยมกัน

บาร์ HOMRA จะเป็นทั้งอาณาจักรของซุโอและร้านของคุซานางิ โทสึกะจะเอาของที่สนุกสนานมาและแต่งแต้มสถานที่นี้ด้วยสีของความยินดี

มุมปากของคุซานางิยกขึ้นในขณะที่เขามองไปยังคนสองคนที่จะร่วมสร้างอาณาจักรขึ้นด้วยกัน

เรื่องราวใหม่ของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้น

--o--

เราชอบนิยายสั้นชุดนี้หลายเรื่องเลยค่ะแต่แปลอันนี้ก่อนเพราะง่ายสุด

อ่าน แล้วก็อยากสครีมทาทาระโพนี่เทลกับมิโคโตะหนวดดกเบา ๆ เวอร์ชั่นหนวดดกนี่น่าจะเอาไปประชันกับมุนาคาตะตอนถอดแว่นในดราม่าซีดีว่า ใครจะเรื้อนกว่ากัน XD

แล้วดันเปิดเผยความจริงว่าไอ้นั่นคือ หนวดจริง ๆ ด้วย ทาทาระไม่ไหวจะเคลียร์ มิโคโตะก็โคตรจะตามใจ ให้ตัดตามใจชอบเลยนะ ชักอยากรู้แล้วว่าแฟชั่นของมิโคโตะนี่เลือกเองหรือใครแต่งให้กันแน่ 5555

แต่ พูดก็พูดเถอะ แปลเสร็จแล้วดันนึกถึงตอนจบซีซั่นขึ้นมา เศร้าซะไม่มีดี แถมยังคำพูดโปรโมทมูวี่นั่นอีก ยังไงก็อยากจะให้สามคนนี้อยู่ที่บาร์ตลอดไป เคยเจอโดที่เขียนให้ทาทาระรอมิโคโตะอยู่ที่บาร์ในโลกโน้นด้วยล่ะคะ แล้วก็บอกว่าจะดูแลบาร์ไปก่อนจนกว่าคุซานางิจะมา โอย กระแทกใจ เรื่องนี้เราว่าคุซานางิชีวิตรันทดที่สุดเลย เสียทาทาระไปแล้ว มิโคโตะยังจะดื้อตามไป ทิ้งคุซานางิไว้คนเดียว คุซานางิก็ต้องปล่อยไปทั้ง ๆ ที่รู้ เฮ่อ เรื่องมันเศร้า ภาคใหม่เป็นมูวี่ก็เศร้า อยากได้ซีซั่นสองแบบยาว ๆ หน่อย ชักจะบ่นมากไปแล้ว จบดีกว่า
ไว้เจอกันคราวหน้าค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น